7 เหตุผลที่ชี้ชัดว่าทำไม อาร์เซนอล จะเป็นทีมม้ามืดของ พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2020-21

        1. โอบาเมยอง เลือกอยู่กับทีมต่อไป

        การต่อสัญญากับ โอบาเมยอง ถือเป็นดีลที่ดีที่สุดของ อาร์เตต้า นับตั้งแต่ได้เป็นกุนซือ อาร์เซนอล เลยก็ว่าได้ เพราะนี่จะเป็นการการันตีว่า ปืนใหญ่ จะยังคงมีกองหน้าระดับโลกที่กำลังอยู่ในช่วงพีคของอาชีพคอยผลิตสกอร์ให้ในช่วงเวลาสำคัญของสโมสร

        2. วิลเลี่ยน เข้ามาเติมเต็ม

        อาร์เตต้า มองว่า เมซุต โอซิล ยังไม่ใช่จอมทัพที่ดีในการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับ อาร์เซนอล และ วิลเลี่ยน คือคำตอบนี้ กับการระเบิดฟอร์มตั้งแต่เกมเปิดสนามที่ อาร์เซนอล บุกไปถล่ม ฟูแล่ม 3-0 ซึ่งดาวเตะทีมชาติบราซิล จัดไปคนเดียว 2 แอสซิสต์

        แข้งวัย 32 ปี แสดงให้เห็นว่าเขายังมีความอันตราย และยังคงรวดเร็ว ซึ่งเข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพในการเล่นเกมรุกของ อาร์เซนอล ได้เป็นอย่างดี แม้ วิลเลี่ยน อาจจะไม่ใช่ เควิน เดอ บรอยน์ แต่นี่ถือเป็นการเสริมทัพที่คุ้มค่าสุด ๆ ของ อาร์เตต้า

        3. อาร์เซนอล ไม่ใช่หมูสำหรับทีมใหญ่อีกต่อไป

        อาร์แซน เวนเกอร์ ทำให้ อาร์เซนอล ถูกจดจำว่าเป็นทีมที่มีสไตล์การเล่นที่เน้นเกมรุกกับการค่อย ๆ เซ็ตบอลให้สวยงาม แม้มันจะเคยทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่จุดอ่อนที่เห็นได้ชัดคือพวกเขามักจะเสียท่าให้กับบรรดาทีมใหญ่ด้วยกันอยู่เป็นประจำ

        ภายใต้การคุมทีมของ อาร์เตต้า เขาสามารถพา อาร์เซนอล เอาชนะทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, เจอร์เก้น คล็อปป์, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์, คาร์โล อันเชล็อตติ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด มาได้ทั้งหมด กุนซือชาวสแปนิชได้เปลี่ยนความเชื่อภายในทีมให้ผู้เล่นตระหนักว่าพวกเขาสามารถเอาชนะใครก็ได้

        4. ในที่สุด อาร์เซนอล ก็มีผู้นำในสนาม

        อาร์เซนอล ขาดนักเตะที่จะเป็นผู้นำในสนามมานาน แต่มาถึงในยุคของ อาร์เตต้า มีผู้เล่นหลายคนที่ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดีทั้ง โอบาเมยอง จอมทัพคนปัจจุบัน รวมถึงอดีตกัปตันอย่าง กรานิต ชาก้า ที่ดูสุขุม และเยือกเย็นขึ้นมาก

        ขณะที่แนวรับอย่าง คีแรน เทียร์นี่ย์ ก็ดูมีความเป็นผู้นำมากขึ้น โดยมีจอมเก๋าอย่าง ดาวิด ลุยซ์ คอยประคับประคองนักเตะรุ่นน้อง ถือว่า อาร์เตต้า สามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติของลูกทีมได้สำเร็จในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี

        5. แน่นทุกตำแหน่ง

        นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่รู้สึกว่า อาร์เซนอล มีคุณภาพในทุกตำแหน่ง และฤดูกาลนี้พวกเขาได้ผู้เล่นใหม่ทั้ง วิลเลี่ยม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, ปาโบล มารี่, เซดริก ซัวเรซ รวมถึง ดานี่ เซบายอส เข้ามาเสริมทัพให้กับกองหลัง และกองกลาง

        ส่วนในแนวรุก อาร์เตต้า มีทั้ง โอบาเมยอง, อเล็กซองดร์ ลากาแซ็ตต์, วิลเลี่ยน และ นิโคลัส เปเป้ เป็นสี่ตัวเลือกในการโจมตีคู่ต่อสู้ ซึ่งยังไม่รวมถึงบรรดาดาวรุ่งที่น่าจับตามองหลาย ๆ คนของ อาร์เซนอล อีกด้วย

        6. พลังหนุ่มที่กำลังเฉิดฉาย

        อาร์เซนอล ในยุคของ อาร์เตต้า เต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่งมากพรสวรรค์หลายคนทีเดียว กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, บูกาโย ซาก้า, ซาลิบา, กาเบรียล, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, โจ วิลล็อค, เอมิล สมิธ โรว์ และ รีสส์ เนลสัน ผู้เล่นเหล่านี้มีอายุต่ำกว่า 22 ปี และพวกเขากำลังเป็นทั้งปัจจุบัน และอนาคตของ อาร์เซนอล

        7. มากกว่าท็อป 4

        ชัยชนะเหนือ ลิเวอร์พูล, แมนซิตี้ และ เชลซี ถือเป็นหลักฐานที่ชี้ชัดว่า อาร์เซนอล พร้อมแล้วในการลุกขึ้นมาต่อกรกับทีมระดับหัวตาราง ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของทีมที่จะลุ้นแชมป์ลีกได้

        แม้ว่าฤดูกาลนี้ อาร์เซนอล จะวางเป้าหมายให้ตัวเองขยับจากท็อป 6 ไปเป็นท็อป 4 ให้ได้ แต่ด้วยการพัฒนาที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมของ ปืนใหญ่ ทำให้มีหลายเหตุผลที่ทำให้เชื่อได้ว่า พวกเขาอาจมีลุ้นมากกว่าการคว้าสี่อันดับ

ภาพ AFP